1. Direct Communication การสื่อสารแบบตรงไปตรงมา เน้นคำพูดที่กระชับ ตรงประเด็น มุ่งเน้นความต้องการหรือเป้าหมายเป็นหลัก (focus on target)
แต่ขณะเดียวกันเมื่อคนเราอยู่ร่วมกันในสังคมที่กว้างขึ้น ย่อมมีวิธีการสื่อสารและรูปแบบการสื่อสารที่หลากหลายมากขึ้น ปัจจัยที่ส่งผลต่อความแตกต่างของรูปแบบการสื่อสาร อาจขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หรือกาลเทศะ บุคลิกของแต่ละคน หรือพื้นหลังของวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่างกัน รวมทั้งเจตนาในการสื่อสารนั้นๆด้วย เช่นต้องการสื่อสารเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ, เพื่อสร้างความเข้าใจ, เพื่อสร้างความสัมพันธ์ หรือสื่อสารเพื่อแสดงอำนาจ เป็นต้น โดยสรุปได้ 9 ประเด็นหลัก ได้แก้
1.Self-Approving มั่นใจตนเอง
เป็นบุคลิกของคนที่มีความมันใจในตนเองสูง เชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของตนเอง เป็นคนกล้าตัดสินใจ ชอบเป็นผู้นำ เป็นคนพูดตรงไปตรงมา แต่อาจไม่ชอบรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
2.Aggressive Communication สื่อสารแบบก้าวร้าว ดุดัน
คนประเภทนี้ใช้คำพูดสั้นๆ กระชับแต่ดุดัน บางครั้งก็เป็นการแสดงออกแบบก้าวร้าวเมื่อไม่พอใจ หรือเห็นว่าความคิดของตนเองถูกกว่า ต้องการเอาชนะและไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้
3.Talkative-Dramatic คนช่างพูด
เป็นคนที่ใช้คำพูดในการสื่อสารเป็นหลัก ช่างพูด หรือพูดมาก เจ้าบทเจ้ากลอน ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด หรือบางทีก็อาจจ้ำจี้จ้ำไชจนคนอื่นรำคาญ แต่หากพูดโดยไม่ใช้อารมณ์ ก็จะเป็นคนที่สื่อสารทางอ้อม สามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้
4. Helping ช่วยเหลือเกื้อกูล
เป็นประเภทที่รักษาน้ำใจฝ่ายตรงข้ามก่อน ด้วยการอาสาให้ความช่วยเหลือ ให้ความร่วมไม้ร่วมมือกับผู้อื่น คนประเภทนี้มักเป็นที่รักใคร่ ใครๆก็อยากคบหาสมาคม
5.Altruistic เห็นแก่ผู้อื่น
คนประเภทนี้ รับฟังความเห็นและความต้องการของผู้อื่นเป็นหลัก มีความเสียสละสูงในสังคม แต่บางครั้งก็อาจเป็นคนไม่กล้าแสดงออก และอาจถูกเอาเปรียบได้เพราะเอาแต่ยอมคนอื่น
6. Needy-Dependent แล้วแต่ผู้อื่น
ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่มีความมั่นใจในตนเอง ต้องคอยปรึกษาและขอความเห็นจากผู้อื่นตลอดเวลา มีความขี้เกรงใจสูง
7. Assertive - Controlling แน่วแน่- ชอบออกคำสั่ง
มีคนที่มีความคิดแน่วแน่ แต่ชอบออกคำสั่งต่อผู้อื่น มีความเป็นผู้นำ แต่ถ้ามากไปก็จะกลายเป็นคนบ้าอำนาจ ต้องการสื่อสารเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หรือสิ่งที่ตนเองต้องการ
8. Distance รักษาระยะห่าง
ต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนที่จะสื่อสารกับผู้อื่น หรือเป็นคนที่มักถอยออกห่างจากกลุ่มหรือวงสนทนาเมื่อเห็นว่าเริ่มมีความขัดแย้ง หรือไม่เอาด้วยเลยหากความเห็นไม่ตรงกันเป็นต้น
นอกจากแปดข้อที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งการสื่อสาร คือ Body expression การแสดงออกทางกาย หรือภาษากาย สามารถสื่อสารได้หลายรูปแบบ ทั้งอารมณ์ ความรู้สึก เช่น ยิ้ม หัวเราะ หรือปรบมือ เมื่อชอบหรือเห็นด้วย หรือแสดงออกถึงความไม่พอใจด้วยการทำท่าสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ชูกำปั้น ทำท่ามือปาดคอ หรือการชูนิ้วกลางแบบฝรั่งเป็นต้น รวมถึงการเงียบใส่คู่สนทนา ก็ถือเป็นการสื่อสารชนิดหนึ่งด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้คนเราอาจมีบุคลิกในการสื่อสารได้หลายรูปแบบในคนเดียวกัน หรืออาจนอกเหนือจากที่กล่าวมาก็ได้ ซึ่งการสื่อสารแต่ละประเภทก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเอง แล้วแต่เราจะเลือกใช้ให้เหมาะกับบุคคล และกาลเทศะครับ
No comments:
Post a Comment