Thursday, April 16, 2015

การศึกษาเพื่อการเป็นพลเมืองประชาธิปไตย EDC

สวัสดีครับ วันนี้ได้มีโอกาสอัพเดทบล็อกอีกครั้ง  อีกบทความหนึ่งที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา ที่จะสรุปโดยสังเขปจากวิชา "การศึกษาเพื่อการเป็นพลเมืองประชาธิปไตย"
Education for Democracy Citizenship EDC เมื่อพูดถึงประชาธิปไตยก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกล่าวถึงการเมือง ซึ่งมีการให้นิยามง่ายๆ สั้นๆว่า

การเมือง คือ เครื่องมือที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนของของสัง หรือเพื่อสังคม

ส่วนประชาธิปไตย คือ กระบวนวิธีในการสร้างข้อตกลงร่วมกันว่าจะใช้เครืองมือแบบไหนในการแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนเหล่านั้น และหมายรวมถึงการมีส่วนร่วม และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมในกลไก หรือเครื่องมือเหล่านั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมที่ต้องการด้วย
Prof.Dr.h.c. Rolf Gollob
Zurich University of
Teacher Education Switzerland

ในระบอบประชาธิปไตยจะมีการแบ่งขั้วอำนาจหลักออกเป็นสามส่วน คือ
1.นิติบัญญัติ ทำหน้าที่ออกกฎหมายในการปกครองบ้านเมือง หรืออนุมัติงบประมาณ (รัฐสภา)
2.บริหาร       หรือรัฐบาล ข้าราชการ ทำหน้าที่ในการดำเนินงานตามกรอบกฎหมายที่ออกโดยนิติบัญญัติ
3.ตุลาการ     หรือศาล  ปฏิบัติหน้าที่ในการดำรงความยุติธรรมในบ้านเมือง
บางกรณีก็มีอีกหนึ่งขั้วอำนาจ คือ สื่อ (Medias)  ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งอำนาจที่มีอิทธิพลต่อสังคมเป็นอย่างมาก หลายรัฐบาลจึงพยายามจะควบคุมสื่อ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง ในขณะที่สื่อส่วนใหญ่ต้องการเสรีภาพในการนำเสนอเรื่องราวอย่างเต็มที่

ในระบอบประชาธิปไตย มี 6 องค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ

1. การเลือกตั้ง  ในกระบวนการประชาธิปไตย อำนาจทั้งหมดได้มาจากประชาชนโดยการโหวตให้รัฐบาลได้เข้ามาทำหน้าที่บริหารจัดการประเทศตามระยะเวลาที่กำหนด การเลือกตั้งเป็นเป็นกระบวนการหลักในระบอบประชาธิปไตย

2.รัฐสภา   เหล่าบุคคลที่เป็นผู้แทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง มาประชุมร่วมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับกฎหมาย ทำหน้าที่ผ่านกฎหมาย และอนุมัติงบประมาณ (บ้านเรามีแบบสรรหาด้วย ทั้งสส. และสว.)

3. รัฐบาล  ไม่มีรัฐไหนที่สามารถปกครองได้โดยไม่มีรัฐบาล หรือองค์การบริหาร รัฐบาลมีหน้าที่ในการดำเนินตามกรอบกฎหมายและนโยบายที่ผ่านจากรัฐสภา

4. ฝ่ายค้าน อาจเป็นได้ทั้งบุคคล  กลุ่มบุคคล หรือพรรคการเมือง ซึ่งมีความเห็นแตกต่างจากรัฐบาล ยืนอยู่ตรงข้าม คอยตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาล และมักเสนอแนวทางการจัดการอีกรูปแบบหนึ่งอยู่เสมอ และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้รัฐบาลทำหน้าที่ให้ดีขึ้น

5. การกระจายอำนาจ  เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจระหว่างสามเสาใหญ่  (นิติบัญญัติ,บริหาร,ตุลาการ) ไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีมีสิทธิ์ขาดการในการตัดสินใจ หรือใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จแต่เพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งเป็นกระบวนการตรวจสอบซึ่งกันและกัน เพื่อให้การปกครองเป็นไปแบบโปร่งใสด้วย

6. รัฐธรรมนูญ  คือกฎหมายสูงสุด เป็นกฎหมายเพื่อบังคับกฎหมายลูก อาจไม่สามารถใช้ในการบังคับคนได้โดยตรงอย่างเต็มที่ เพราะต้องมีการตีความในรายละเอียดด้วย

ปล. ผมเองไม่มีความรู้เรืองการปกครองมากนัก  จึงกล่าวมาตามความเข้าใจจากที่เรียนมา หากขาดตกบกพร่องอย่างไร เชิญชวนทุกท่านช่วยเพิ่มเติมด้วยนะครับ  จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

แล้วติดตามตอนต่อไปนะครับ


No comments:

Post a Comment